ตามปกติแล้ว หลักแห่งการออมเงินเบื้องต้นก็คือ เมื่อเราได้รายรับเข้ามา เราต้องทำการจัดสรรเงินออกเป็น 3 ส่วนซะก่อน
การจัดสรรเงิน 3 ส่วนที่พูดถึงนี้ มีเคล็ดลับที่สำคัญก็คือ ต้องใช้วิธีการแบ่งเงินออกเป็นสัดส่วนคือ 40% 30% และ 30% ซึ่ง 40% นั้นคือ “เงินส่วนสำหรับการใช้จ่ายทั่วไป” ซึ่งต้องจำหลักไว้ว่า “ต้องคุมตัวเองให้ใช้จ่ายน้อยกว่ารายรับ” ให้ขึ้นใจ
การจะเป็นคนรวยได้ ไม่ใช่ว่าเราจะต้องหาเงินมาเยอะๆ จนกว่าเงินเหล่านั้นจะพอกับค่าใช้จ่ายหรือความต้องการของเรา เพราะขืนทำแบบนั้น รับรองได้ว่าเราจะไม่มีวันรวย เพราะความอยากของเราจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หากเราไม่ระงับมันเสียแต่เนิ่น ๆ การจะระงับและคุมตัวเองให้เป็นคนพอเพียงนั้น ทำได้โดยการบริหารให้เราอยู่ได้ด้วยเงินเท่าที่เรามี
ส่วนจะไปหาเพิ่มเติมนั้นก็ค่อยว่ากันไป ถ้าเราหาเงินได้ 1,000,000 บาท การจะใช้เงินสัก 1,000 บาทอาจไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่หากเรายังหาเงินได้แค่ 9,000 บาท การจะใช้เงินสัก 1,000บาท ย่อมไม่ใช่เรื่องเล็ก เพราะมันคือ 10% ของรายได้ทั้งหมดเลยทีเดียว
ถัดจากนั้น 30% แรกก็คือ “เงินที่เราจัดการเก็บเข้าบัญชีธนาคารเพื่อการออมโดยตรง” เราจะแยกมันออกมาทันทีที่ได้เงินมา และนำเข้าบัญชีโดยไม่ไปยุ่งอะไรกับมันอีก ถือว่าเป็นเงินออมแบบถาวร
ส่วนเงินอีก 30% เป็น “เงินที่เราสำรองไว้ในกรณีที่ 40% แรกเกิดไม่พอ” (ซึ่งถ้าคุณอยากรวยก็ต้องทำให้มันพอ) และถ้า 30% นี้เหลือ ก็ค่อยนำไปสมทบกับอีก 30% ที่ออมรอไว้ในบัญชีอยู่แล้ว
นั่นคือวิธีการบริหารเงินอย่างง่าย ที่จะช่วยฝึกนิสัยการใช้เงินให้พอเหมาะกับรายได้ ตามด้วยการฝึกฝนให้มีนิสัยเก็บออมและรู้จักจัดสรรเงิน แต่หากคุณอยากมีเงินเก็บสำหรับการลงทุน เราก็มีอีกหนึ่งสูตรมานำเสนอให้
นั่นคือ สูตร 50% 30% และ 20% โดยที่ “50% จากรายได้จะแบ่งไว้เป็นเงินสำหรับใช้จ่ายล้วนๆ” จะไม่มีไปหยิบเอามาจากส่วนอื่นๆ อีกต่อไป ไม่มีเงินสำรองแบบสูตรแรกด้วย มีแค่ 50% หากหมดไปก็ต้องรัดเข็มขัด ส่วน “30% ก็คือ เงินออม” นั่นเอง
และอีก “20% ก็คือ เงินออมสำหรับการลงทุน” ที่เราต้องบังคับตัวเองให้เก็บอย่างไม่มีเงื่อนไข และเมื่อเราออมเงินทุนได้เพียงพอแล้ว เราก็จะสามารถลงทุนได้ตามต้องการโดยไม่ต้องพึ่งเงินกู้อีกต่อไป
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : 40+